พี่ใจจะขาด เผาน้องปลื้ม ปี2อุเทนฯ รุ่นพี่ทำร้ายดับ ศิษย์เก่ารับปากจะไม่เกิดขึ้นอีก

พี่ใจจะขาด เผาน้องปลื้ม ปี2อุเทนฯ รุ่นพี่ทำร้ายดับ ศิษย์เก่า รุ่นพี่และเพื่อนร่วมสถาบันแห่อาลัย รับปากจะไม่เกิดขึ้นอีก

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ วัดเก่าหนองกี่ ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายวีรพัฒน์ ตามกลาง หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (อุเทนถวาย) รุ่น 89 แผนกวิศวกรรมก่อสร้าง ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายจนอาการสาหัส รักษาตัวที่ รพ.นาน 8 วัน ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.

โดยมีญาติพี่น้อง ตัวแทนจากทางมหาวิทยาลัย คณาจารย์ ศิษย์เก่า รุ่นพี่ และเพื่อนๆ สถาบันเดียวกัน เดินทางมาร่วมไว้อาลัยให้กับน้องปลื้มเป็นครั้งสุดท้าย บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนางมนัสนันท์ มารดาและนายวีรพงษ์ พี่ชายน้องปลื้ม ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก

ช่วงที่เปิดโลงศพเพื่อทำพิธีล้างหน้าศพ นายวีรพงษ์ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจเพราะยังทำใจไม่ได้ คนในงานก็ต้องมาคอยประคองเพราะกลัวจะเป็นลม เช่นเดียวกับแฟนสาวของน้องปลื้ม ก็ยื่นมือไปจับมือและใบหน้าของน้องปลื้มเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัย

จากนั้นบรรดาศิษย์เก่า รุ่นพี่ และเพื่อนร่วมสถาบันที่มาร่วมงานฌาปนกิจ ร่วมกันร้องเพลงประจำสถาบันที่บริเวณหน้าเมรุ แต่จากการสอบถามญาติและเพื่อนๆ ต่างก็บอกว่าไม่เห็นรุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องมาร่วมงานซึ่งอาจจะกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย

นายวีรพงษ์ พี่ชายน้องปลื้ม พูดทั้งน้ำตาว่า วันนี้เป็นวันที่ส่งดวงวิญญาณน้องสู่สรวงสวรรค์ ก็ได้บอกกับดวงวิญญาณของน้องว่า ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีไปใช้ชีวิตให้มีความสุขในภพภูมินั้น ภพภูมินี้พี่ชายคนนี้จะดูแลแม่เป็นอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วง

สำหรับความรู้สึกวันนี้ถามว่าดีใจมั้ยที่เห็นพี่ๆ และเพื่อนๆ ของน้องมาเป็นจำนวนมากก็ดีใจ แต่ถามว่าอยากให้มางานแบบนี้มั๊ยไม่อยากให้มางานแบบนี้ และที่รู้สึกเสียใจมากที่สุดคือไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะกล่าวคำลาน้องสักคำ เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะส่งแชทหากันไม่ค่อยได้โทรพูดคุยกัน ได้เจอพูดคุยกันครั้งสุดท้ายก็ตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา

แต่พอแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของแต่ละคน ก็มีแต่แชทหากัน แต่พอมาเจอกันอีกทีก็ตอนที่น้องอยู่ รพ.ในสภาพหมดสติไม่รับรู้อะไรแล้ว พี่ชายคนนี้ก็ได้ทำหน้าที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องจนถึงที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

ขณะที่นายศุภัชกาญจน์ สัมพันธ์วาด อายุ 49 ปี ประธานนักศึกษาอุเทนถวายรุ่น 59 กล่าวด้วยว่า หลังทราบข่าวศิษย์เก่าอุเทนถวาย ได้ขอหมายเลขบัญชีของผู้ปกครองทันที ซึ่งหลังจากได้มา ศิษย์เก่าทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักจะโอนเงินเข้าบัญชี กรณีนี้ได้โอนเงินเข้าบัญชีแม่น้องแล้วกว่า 5 แสนบาท

ด้านนายสิทธิศักดิ์ อารีย์ชม อายุ 27 ปี ประธานรุ่น 84 กล่าวด้วยว่า เท่าที่ทราบกรณีนี้เป็นการกระทำของนักศึกษารุ่นเก่าๆ เพราะในระยะหลังนักศึกษารุ่นใหม่มีการต่อต้านกันกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะหลงเหลืออยู่ ถึงเวลานี้ขอให้ความมั่นใจว่า “อุเทนถวาย” จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอสัญญา

ที่มาข่าวสด

(Visited 1,032 times, 1 visits today)
error: Content is protected !!