หนุ่มพิการ ประกาศขายไต 2 แสน หาเงินสร้างบ้านให้แม่ ไปสมัครงานก็ไม่มีคนรับ ช้ำโดนผู้รับเหมาโกง

“เห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน อยากทำงานก็ไม่มีใครรับ” หนุ่มพิการทางร่างกาย โพสต์ประกาศขายไต ผ่านเฟซบุ๊ก หวังหาเงินมาสร้างบ้านให้แม่ หลังถูกผู้รับเหมาเชิดเงิน 3.7 แสนบาทแล้วหนีไป ขณะที่บ้านสร้างไปได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว Bas Chaimongkhon โพสต์ข้อความระบุว่า วอนสื่อช่วยผมกับแม่ เนื่องจากถูกผู้รับเหมาเชิดเงินพร้อมทิ้งงาน วอนขอความเมตตาขอรับบริจาควัสดุที่จะมาสร้างบ้าน ส่วนผมประกาศขายไตเพื่อสร้างบ้านหลังนี้ให้เสร็จสองแสนบาทครับ ผมไม่อยากให้แม่ขายไตครับ ผมขายไตของผมเองนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาชุมชนโกวบ๊อพัฒนา บ้านเลขที่ 32 ซ.รัชดาภิเษก-ท่าพระ 1 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ได้พบกับนางเตือนใจ เฉลยญาณ อายุ 56 ปี มารดาของนายชัยมงคล สามสี อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุคคลพิการ เท้าปุก มือไม้อ่อนแรงและอาการทางประสาท

นางเตือนใจ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนได้เงินประกันสังคมซึ่งเป็นเงินก้อนเดียวในบั้นปลายชีวิต เพื่อนำไปสร้างบ้านไว้ให้ลูกชายได้อาศัย เป็นที่ดินของสหกรณ์ที่จัดสรร โดยจะทำบ้าน 2 ชั้น ขนาด 16 ตารางวา ภายในซอยเทียนทะเล 20 งบราคาการก่อสร้าง 3 แสน 7 หมื่นบาท จากนั้นน้องสาวได้แนะนำนายวันชัย ฤทธิธร ซึ่งเป็นช่างที่รู้จักกันให้มารับเหมาสร้างบ้านให้จนนัดทำสัญญากันวันที่ 25 ต.ค. 2563 พร้อมจ่ายเงินก้อนแรก 1 แสนบาท

นางเตือนใจ กล่าวต่อว่า ต่อมา 1 พ.ย. ผู้รับเหมาเบิกเงินงวดที่ 2 อีก 1 แสนบาท อ้างว่าต้องจ่ายค่าช่าง อีก 10 วันถัดมาขอเบิกเงินอีก 7 หมื่นบาท และ 1 ธ.ค. 2563 ผู้รับเหมาได้ขอเบิกเงินอีก 1 แสนเพื่อทำหลังคาบ้าน กระทั่ง 25 ม.ค. 2564 ครบกำหนดส่งมอบบ้าน ปรากฏว่าบ้านสร้างไปได้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น ส่วนผู้รับเหมาและคนงานได้หนีไปแล้ว จึงไปแจ้งความไว้ที่ สน.แสมดำ แล้วเงียบหายไป จนขณะนี้แทบจะไม่มีข้าวกินเพราะไม่มีเงินเหลือใช้ ตนก็ได้แค่รับจ้างเล็กๆ น้อยๆ ทั่วไป ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น

นายชัยมงคล กล่าวว่า ที่ตนประกาศขายไตข้างขวา เพราะอยากช่วยแม่ เห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน อยากทำงานก็ไม่มีคนรับทำงาน ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้จึงมีความคิดจะขายไตเพราะเป็นคนพิการอยู่แล้วน่าจะเป็นทางออกที่ดีในการหาเงินมาช่วยแม่ นอกจากนี้อยากขอรับบริจาคอุปกรณ์การก่อสร้างเพื่อใช้ในการสร้างบ้าน

พล.ต.ต.พงศ์อนันต์ คล้ายคลึง ผบกน.9 กล่าวว่า ขณะนี้กำลังปรึกษาหารือกับ พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี ผกก.สน.แสมดำ เบื้องต้นพบว่ามีสัญญากันเป็นลายลักษณ์อักษร จะไม่เป็นคดีอาญาแต่จะเป็นคดีแพ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อไป

ที่มาไทยรัฐ

(Visited 12 times, 1 visits today)
error: Content is protected !!