สาวกระทรวงศึกษาดับ หลังฉีดวัคซีน 15 วัน อาการแย่ลงเรื่อยๆ ถึงขั้นช็อก ญาติเชื่อผลข้างเคียง

สาวกระทรวงศึกษาดับ หลังฉีดวัคซีน 15 วัน อาการแย่ลงเรื่อยๆ หามส่ง ร.พ. หมอฉีดยา ชั่วโมงเดียวช็อก ต้องหามกลับไปอีกรอบ ญาติเชื่อผลข้างเคียง

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความไทม์ไลน์อาการป่วย ของ น.ส.ชนัญชิดา อายุ 36 ปี หลังไปฉีดวัคซีนซิโนแวคเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่จัสตุรัสจามจุรี กทม. จากนั้นก็มีอาการปวดเมื่อย แต่ยังสามารถขับรถกลับบ้านที่พระนครศรีอยุธยาได้ ต่อมาวันที่ 7 มิ.ย. มีอาการเพลีย ปวดเมื่อย มีไข้ ไม่มีแรง จึงไปหาหมอที่ ร.พ.ราชธานี อยุธยา หมอได้ให้ยาแก้ปวดมากิน วันที่ 8 มิ.ย.อาการก็ไม่ดีขึ้น และแย่ลงกว่าเดิม นอนซมทั้งวัน ไม่มีแรง ปวดเมื่อย เบลอ แน่นหน้าอก ช่วงเย็นญาติจึงพาไปหาหมอที่ ร.พ.เดิม ซึ่งหมอได้ฉีดยาให้ 1 เข็ม แต่ไม่รู้ว่าแก้อาการอะไร ก่อนจะกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 20.30 น. จากนั้นเวลา 22.00 น. เกิดอาการช็อก หายใจไม่ออก หัวใจหยุดเต้น และหมดสติไป ญาติเรียกรถฉุกเฉินมารับที่บ้านและได้ปั๊มหัวใจ ก่อนส่งไปโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยแพทย์ ร.พ.ราชธานี ระบุว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตายเฉียบพลัน

ล่าสุดวันที่ 11 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ที่วัดโพธิ์เผือก ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ครอบครัวของ น.ส.ชนัญชิดา ได้นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนา บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ด้าน นางอนันต์ อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวทำงานเป็นพนักงานราชการกระทรวงศึกษา กทม. มีโรคประจำตัว คือภูมิแพ้ กับไทรอยด์ ถึงลูกสาวจะมีโรคประจำตัว แต่ก็แข็งแรง ไม่ได้ป่วยกระเสาะกระแสะ หรือต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย

ทางกระทรวงศึกษาธิการที่ลูกสาวทำงานอยู่นั้น ให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีน ซึ่งลูกสาวก็มาบ่นให้ฟังว่าไม่อยากฉีดเพราะกลัวแต่ก็ต้องฉีด เพราะหากเป็นโควิดจะนำกลับมาติดคนในครอบครัว จึงได้ตัดสินใจลงทะเบียนฉีดวัคซีน แต่ก่อนฉีดวัคซีนลูกสาวก็ได้แจ้งว่ามีโรคภูมิแพ้และไทรอยด์ จนได้ฉีดเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา

กระทั่ง คืนวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 23.30น. ลูกสาวก็เสียชีวิตลง แพทย์ ร.พ.ราชธานี ระบุว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะ เส้นเลือดหัวใจตายเฉียบพลัน แต่ญาติยังคงติตใจในการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าสาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะเป็นเพราะผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน จึงได้นำร่างส่ง ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุในการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งต้องรอผลชันสูตร 2–3 สัปดาห์ ตนก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะมาเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน เนื่องจากลูกสาวเป็นคนแข็งแรง และเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องดูแลพ่อแม่ ลูกและหลาน รวม 5 ชีวิต ทำให้ครอบครัวตนเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก

ครอบครัวเชื่อว่าที่ลูกตัวเองเสียชีวิตอย่างกะทันหันนั้นต้องเป็นสาเหตุของการแพ้วัคซีนอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวไม่เคยเป็นอะไรจนกระทั่งไปฉีดวัคซีนกลับมาแล้วก็มีอาการดังกล่าว อยากให้หน่วยงานใดก็ได้ช่วยเข้ามารับผิดชอบชีวิตของลูกสาวตนด้วย เนื่องจากลูกสาวอายุยังน้อย และมีภาระหน้าที่การงานที่ดีและต้องรับผิดชอบดูแลทั้งครอบครัว

ขณะที่ นายนพเก้า อายุ 19 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งยังอยู่ในการโศกเศร้าและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวว่า หลังฉีดวัคซีนมา แม่บ่นให้ฟังว่ามีอาการปวดเมื่อย มีไข้ตลอดเวลา มีอาการเบลอๆ แม่ก็บ่นว่าผลข้างเคียงที่เป็นน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน จนกระทั่งแม่มีอาการโคม่าหนักมาก ถึงขนาดชักเกร็ง หยุดหายใจไปต่อหน้าต่อตาตน ซึ่งตนและคนในบ้านก็พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอก็แจ้งว่าแม่มีโอการโคม่า ให้ทำใจ ตนและครอบครัวรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และให้ความเป็นธรรม รวมถึงหาสาเหตุที่แท้จริงให้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียในแบบนี้

ด้าน นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทราบในเบื้องต้นว่าผู้เสียชีวิตฉีดวัคซีน ในกรุงเทพมหานคร และมีโรคประจำตัว อยู่ระหว่างการสอบสวน ตรวจสอบรายละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต

ที่มาข่าวสด

(Visited 26 times, 1 visits today)
error: Content is protected !!