ปู่ตกใจ! ตีเด็กขาลาย แค่เขียนตามคำบอกไม่ได้ ทำไมไม่สอนดีๆ

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม กรณีมีการโพสต์ภาพเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษา ถูกครูโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีอย่างรุนแรง จึงนำภาพมาลงไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้ระบุโรงเรียนของเด็กคนดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าเด็กมีรอยถูกตีบริเวณน่องทั้งซ้ายและขวาข้างละ 5-6 รอย ทำให้ชาวเน็ตพากันการวิพากษ์วิจารณ์การลงโทษเด็กของครูรายนี้ เรียกโดยร้องให้ทางโรงเรียนรับผิดชอบรวมทั้งแนะนำให้ผู้ปกครองไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับครูที่ลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุรายนี้

ทีมข่าวได้ไปพบกับครอบครัวของเด็กที่บ้าน ได้พบกับนายสมชาย สำราญ ปู่ของเด็ก ซึ่งพึ่งไปรับหลานกลับมาจากโรงเรียนสอนภาษาจีนที่เกิดเหตุ พร้อมกับเล่ารายละเอียดของการเกิดกรณีดังกล่าวนี้ว่า พ่อแม่ของหลานแยกทางกัน ตนกับภรรยาได้รับหลานเอามาเลี้ยงดู

โดยประกอบอาชีพค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ ต่อมาได้ส่งหลานเข้าเรียนภาคค่ำที่โรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งหนึ่ง โดยปกติโรงเรียนจะเปิดสอนและเลิกเรียนเวลาประมาณ 19.30 น. ซึ่งตนจะไปรับหลานกลับจากโรงเรียน ซึ่งเมื่อทีมข่าวถามกับตัวเด็กว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กบอกว่า เขียน(ตามที่ครูบอก)ไม่ได้ ครูเลยตี 5 ครั้ง และเมื่อถามว่ากลัวไหม เด็กยอมรับว่าตอนนั้นกลัวมาก

ปู่ของเด็กคนนี้ เล่าถึงวันที่เกิดเหตุว่า ตอนไปรับหลาน ช่วงแรกตนก็ไม่รู้ว่าหลานถูกตี นึกว่าหลานคงถูกลงโทษเพราะทำความผิดบางอย่าง เนื่องจากครูให้เด็กยืนโดยไม่ให้นั่ง แต่พบสิ่งผิดสังเกตุว่าเมื่อถึงเวลา 20.00 น.ก็ยังไม่ปล่อยกลับ และหลานตนก็ออกมาเป็นคนสุดท้าย ออกมาได้ก็รีบวิ่งออกจากโรงเรียนเหมือนกลัวบางอย่าง กระทั่งพบหลานว่าถูกตีจนมีสภาพดังกล่าว

ปู่ของเด็กคนดังกล่าวนี้ บอกด้วยว่า วันนี้ได้เข้าไปพบกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนได้ยกมือไหว้และขอโทษอย่างหนัก รวมทั้งแจ้งว่ายินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง และอ้างว่าทางโรงเรียนไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ แต่เป็นการกระทำของครูหญิงคนหนึ่ง เพียงคนเดียว ส่วนตนนำหลานไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว หลังจากนี้จะรอดูว่าโรงเรียนจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร และจะได้หารือกันในครอบครัวว่าจะดำเนินการยังไงต่อไป

ในวันนี้ เวลา 17.00 น. ทางโรงเรียนได้นัดให้ญาติไปหารือกันที่โรงเรียนอีกครั้ง เบื้องต้นทางบิดาของเด็กซึ่งอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ได้โทรศัพท์มาสอบถามและขอให้ช่วยดำเนินการเพื่อเอาเรื่องครูให้ถึงที่สุด แต่ผู้เป็นปู่ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ เนื่องจากอยากรอดูผลการหารือกับทางโรงเรียนเสียก่อน เพื่อพิจารณาดูว่าทางโรงเรียนแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้มากน้อยเพียงไร หากไม่เป็นที่พอใจปู่ของเด็กก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ที่มามติชนออนไลน์

(Visited 3 times, 1 visits today)
error: Content is protected !!