วันหนึ่ง มีสุนัขตัวหนึ่ง เดินหาของกินมาตามทางด้วยความหิวโซ ในระหว่างทาง มันได้
แลเห็นลูกสุนัขท่าทางอ่อนแอมากตัวหนึ่ง
กำลังยืนคาบก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ที่ดูน่าอร่อยมาก ยืนอยู่ที่ตรงด้านหน้า มันจึงเห่าขึ้นและ
แยกเขี้ยวเข้าใส่ทันที ” โฮ่ง ๆๆๆๆ “
ลูกสุนัขตกใจกลัว จึงปล่อยชิ้นเนื้อชิ้นนั้นออกจากปาก แล้ววิ่งหนีไปในทันที
“มันจะต้องอร่อยอย่างมากเลยนะนี่…” เจ้าสุนัขกล่าว
แล้วก็ตรงเข้าไปคาบชิ้นเนื้อนั้นทันที แล้วมันก็เกิดคิดขึ้นมาว่า
ถ้าหากมีหมาตัวอื่นได้กลิ่นชิ้นเนื้อนี้ อาจเข้ามาแย่งมันไปได้
“ไปหาที่อื่นที่เงียบ ๆ กินดีกว่า” และเมื่อเจ้าสุนัขคิดได้ดังนั้น
มันจึงได้ออกวิ่ง…แล้วมันก็ได้วิ่งมา…จนถึงที่สะพานข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง
ขณะที่มันกำลังเดินอยู่บนสะพานนั้น มันได้ชำเลืองลงไปในน้ำเบื้องล่าง
มันได้เห็นหมาอีกตัวหนึ่งซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเงาของตัวมันเอง กำลังคาบก้อนเนื้ออีกก้อน
หนึ่ง
มันเกิดความโลภขึ้นจนทนไม่ไหว
จึงได้กระโจนลงไปในน้ำเพื่อที่จะแย่งก้อนเนื้ออีกก้อนหนึ่งจากเงาของมันเอง
แน่นอนมันย่อมหมดหวังที่จะได้ก้อนเนื้อก้อนนั้น
ซ้ำร้ายก้อนเนื้อที่มันคาบมาด้วยนั้นยังตกลงไปในแม่น้ำ และจมลงสู่ก้นแม่น้ำในที่สุด
ในที่สุด มันก็เดินจากไปจากที่ตรงนั้นอย่างช้าๆ…พร้อมกับความหิวโหย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความโลภมากอยากได้ทุกสิ่ง…จะทำให้สูญเสียทุกสิ่งไป”
ดั่งสุภาษิตที่ว่า ”โลภมาก ลาภหาย” นั่นเอง
ซึ่งสุนัขมีชิ้นเนื้ออยู่แล้วแต่อยากได้ชิ้นที่ใหญ่กว่า เมื่อความโลภบังตาจึงคิดจะเอาชิ้นเนื้อในน้ำ แต่หารู้ไม่ว่า
ชิ้นเนื้อนั้นคือเงาตนเอง
ขอบคุณภาพจาก kapook.com
(Visited 24 times, 1 visits today)