ตามสืบดอนเมืองปิดคดี – คงไม่มีใครเถียงว่าโครงการ ”คนละครึ่ง” เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่โดนใจชาวบ้านและใส่เม็ดเงินลงไปได้ตรงกลุ่ม เป้าหมายมากที่สุดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากความสำเร็จของโครงการยังทำให้มีการต่อยอดไปสู่โครงการอื่นๆ อีก ทั้ง ”เราชนะ” และ ”ม.33 เรารักกัน” และโครงการ ”คนละครึ่งเฟส 2” และเฟส 3 ที่ทุกคนตั้งตารอ
ความสำเร็จของโครงการดูได้จากป้ายรับสแกนที่ติดตามร้านค้าต่างๆ ที่ผุดขึ้นทั่วเมือง เรียกว่าร้านไหนมี แอพพลิเคชั่นถุงเงิน รับคนละครึ่ง รับเราชนะ ล้วนได้รับความนิยมพากันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
เหรียญมีสองด้าน ฉันใดก็ฉันนั้น โครงการดีๆ ก็ต้องมีพวกนอกลู่นอกทาง นำเงินที่ได้ไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์อยู่บ้าง อาทิ เอาไปแลกเป็นเงินสด หรือใช้ซื้อเหล้า ซื้อเบียร์ ซึ่งหากถูกเจ้าที่ตรวจจับได้ก็ต้องถูกถอนสิทธิ์และริบเงินคืน
แต่สำหรับผัวเมียคู่หนึ่ง แค่ริบเงินยังไม่พอ ต้องถูกดำเนินคดีถึงติดคุกด้วย ไปดูกันว่าเพราะอะไร
ย้อนไปเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 2 เมษายน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผบก.ประจำ บชน. รรท.ผบก.น.2 ว่า พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดิเรก ทองแกมแก้ว รอง ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.ภาคิน ดอกไม้ ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ รอง สว.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง
ขอบคุณภาพและที่มาข่าวสด
