ครอบครัวน้องการ์ตูน 7ปีที่สูญเสีย กระซิ่งแข่งชนร้านสเต็ก เมื่อปี2557 ส.ส.วัน อยู่บำรุง เผยหลังพบพ่อคนขับ เจ้าตัวยัน ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย
สรุปเรื่องราวจากเพจดัง Poetry of Bitch
คดี “น้องการ์ตูน” 7 ปีผ่านไป
วันที่ชีวิตเปลี่ยน:
1- “น้องการ์ตูน” เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ อาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ โดยครอบครัวเปิดร้านอาหาร “สเต็กลุงใหญ่” อยู่ที่เขตบางบอน กรุงเทพฯ
2- วันที่ 19 กันยายน 2557 เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ขณะกำลังจะปิดร้าน น้องการ์ตูนช่วยคุณพ่อเก็บโต๊ะอยู่ที่หน้าร้าน ส่วนคุณแม่อยู่ในครัว
3- ขณะนั้นมีรถกระบะแต่งซิ่ง 3 คัน ขับแข่งกันมาบนทางหลวง หนึ่งในนั้นขับโดย “น.ส.น้ำหวาน” (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และคนที่นั่งมาด้วยคือ “นายชัย” (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เป็นน้องชายของแฟนน้ำหวาน
4- รถคันที่น้ำหวานขับเกิดเสียหลักไปชนรถเก๋งและรถจักรยานยนต์ ก่อนพุ่งมาที่หน้าร้านสเต็กซึ่งคุณพ่อกับน้องการ์ตูนยืนอยู่
5- คุณพ่อได้ยินเสียงรถก่อน จึงโผเอาตัวเข้าบังลูกและกอดลูกไว้ ทำให้คุณพ่อรับแรงกระแทกเต็ม ๆ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อคุณแม่วิ่งออกมาก็ดูเห็นพ่อนอนกอดลูกเอาไว้ในอ้อมแขน
6- แม้คุณพ่อจะสละชีวิตหวังช่วยลูก แต่น้องการ์ตูนก็บาดเจ็บสาหัส สมองเปิดและมีสมองไหลออกมา ต่อมาพบว่าสมองถูกทำลาย 25% มีโอกาสพิการตลอดชีวิต
ไม่เคยมาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียว:
7- ตอนแรกน้ำหวานไม่ยอมรับว่าขับรถแข่ง อ้างว่าไม่รู้จักรถกระบะอีก 2 คันที่ขับแข่งกันมา ตนเพิ่งหัดขับรถ ตั้งใจจะแซงแต่ประสบการณ์ยังน้อย จึงแซงไม่พ้นและเอารถไม่อยู่
8- น้ำหวานบอกว่ารถของเธอไม่ได้แต่งซิ่ง แม้จะตกแต่งข้างในสวยงาม แต่ที่จริงมีไว้ขนของขายเท่านั้น ส่วนนายชัยที่นั่งมาด้วยขับรถไม่เป็น
9- แต่ชาวเน็ตกลับขุดเจอเฟซบุ๊กของ “นายสมชาย” (นามสมมุติ) พี่ชายของนายชัยและแฟนของน้ำหวาน โพสต์ภาพรถคันเกิดเหตุหลายภาพ พร้อมข้อความเกี่ยวกับการแต่งรถ ทำนองว่าเครื่องแรงแบบจัดเต็ม ซึ่งต่อมาในชั้นศาล น้ำหวานก็ยอมรับสารภาพว่าขับรถแข่งกันมาจริง
10- หลังเกิดเหตุน้ำหวานให้คนเอาเงิน 1 แสนบาทมาให้คุณแม่น้องการ์ตูน แลกกับการไม่ขอเป็นเจ้าของไข้ แต่คุณแม่ไม่ยอมรับ น้ำหวานจึงเอาไปให้โรงพยาบาล และจ่ายค่าปลงศพของคุณพ่อ 2 แสนบาท กับจ่ายค่าซ่อมร้านให้คุณแม่อีก 4 หมื่นกว่าบาท
11- แต่น้ำหวานไม่เคยมาเยี่ยมน้องการ์ตูนเลยแม้แต่ครั้งเดียว และเคยยกมือไหว้ขอโทษคุณแม่ครั้งหนึ่ง เนื่องจากตำรวจขอให้ทำ
12- แม่น้องการ์ตูนเคยเล่าว่า ครั้งหนึ่งเจอสมชายที่โรงพัก สมชายก็พูดกับเธอว่า พวกเราไม่ใช่เทวดา จะเสกเงินจากไหนมาชดใช้ให้ พ่อแม่ก็มีต้องเลี้ยงดู ติดคุก 1 ปี
สั่งชดใช้เงินกว่า 6 ล้าน:
13- ธันวาคม 2557 สมชายโพสต์เฟซบุ๊กว่า…“ปีหน้าต้องเป็นปีทองของกูแน่ เสียดายต้องมาเสียเวลากับแม่ลูกสเต็ก แมร่งไม่สงสารรถกูเลย เงินค่าร้านค่ารถกูก็จ่าย รถกูก็พัง ถามดิใครจะจ่าย พวกมึงมันเห็นแก่ตัว ควาย!!!ป.ล. กูบ่นไปงั้นแหละ กูไม่จ่ายตามที่มันขอแน่ ๆ ยืดเต็มอายุความ 55555”
14- โพสต์นี้เจอทัวร์ลง เพราะคนมองว่าทั้งคู่ไม่ได้สำนึกผิดเลย แถมน้ำหวานยังมาตอบคอมเมนต์อีกว่า เราเลวตรงไหน มันเป็นอุบัติเหตุและเราก็รับผิดชอบไปแล้ว เราก็ต้องทำมาหากินเพื่อครอบครัว เรียกเงินขนาดนั้นก็เกินไป
15- พฤษภาคม 2559 ศาลตัดสินจำคุกน้ำหวาน 1 ปี และให้ชดใช้เงินค่ารักษาพยาบาล-ค่าเสียโอกาสของน้องการ์ตูน 6 ล้านบาท สินไหมชดใช้ค่าเสียชีวิตของคุณพ่อ 3 แสนบาท และค่ารถให้คุณแม่น้องการ์ตูนอีก 2.7 แสนบาท
16- คุณแม่น้องการ์ตูนร้องไปที่กระทรวงยุติธรรม ขอความช่วยเหลือในการสืบทรัพย์-บังคับคดีน้ำหวาน เอาเงินมาเยียวยาตามคำสั่งศาล แต่หลังสืบทรัพย์อยู่นาน 1 ปี ทนายความก็บอกว่าน้ำหวานไม่มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง
น้องการ์ตูนอายุ 12 ปีแล้ว:
17- ส่วนน้องการ์ตูนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดไม่ได้ ตาบอดทั้งสองข้าง ต้องสวมผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา และแทบไม่รับรู้อะไร
18- ช่วง 3 ปีแรกน้องตอบโต้อะไรไม่ได้เลย ได้แต่นอนนิ่ง ตาลอย เข้าปีที่ 4 คุณแม่คุยกับน้องมากขึ้น น้องจึงเริ่มยิ้มให้ และจำเสียงคุณแม่ คุณตาคุณยายได้
19- ปัจจุบันน้องการ์ตูนอายุ 12 ปีแล้ว นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยคุณแม่เป็นคนดูแล แต่เมื่อคุณแม่ต้องออกไปทำงาน คุณตาคุณยายก็ช่วยดูแลแทน ซึ่งท่านทั้งสองก็อายุ 70 กว่าแล้ว
พ้นโทษ เปลี่ยนชื่อ ชีวิตดี แต่ไม่มีเงินให้:
20- ต่อมาน้ำหวานพ้นโทษออกมา แต่ไม่เคยติดต่อมาหาคุณแม่น้องการ์ตูนเลย และไม่ยอมชดใช้เงินตามคำสั่งศาลแม้แต่บาทเดียว
21- ปี 2561 คุณแม่ถูกโรงพยาบาลฟ้องเรียกค่ารักษาพยาบาลของน้องการ์ตูน 2 ล้านบาท ซึ่งที่จริงน้ำหวานต้องเป็นคนจ่าย แต่เนื่องจากแม่เซ็นรับเป็นเจ้าของไข้ร่วมกับน้ำหวาน และไม่สามารถติดต่อน้ำหวานได้
22- คดีน้องการ์ตูนกลายเป็นข่าวดังอีกรอบ คนไทยช่วยกันบริจาคเงินให้คุณแม่ คืนเดียวได้ 7 ล้านบาท คุณแม่นำเงินไปชำระค่ารักษาพยาบาลที่ค้างอยู่ ใช้หนี้ที่กู้ยืมมา และใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลน้องต่อมา
23- ปี 2562 เพจดังสายดาร์กเปิดเผยว่า น้ำหวานพ้นโทษออกมาแล้ว เปลี่ยนชื่อใหม่และใช้ชีวิตสุขสบาย โดยพบว่าทั้งน้ำหวานและสมชายใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ โพสต์อวดรถยนต์คันใหม่ บิ๊กไบค์คันใหม่ และเครื่องเล่น PS4
24- นอกจากนี้ทั้งคู่ยังเปิดโต๊ะสนุกเกอร์ที่ย่านเอกชัย ในขณะที่ครอบครัวของน้ำหวานก็มีธุรกิจเขียงหมู ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า น้ำหวานไม่มีทรัพย์สินเยียวยาน้องการ์ตูน หรือตั้งใจไม่ชดใช้กันแน่
คุณแม่ออกรายการ ‘โหนกระแส’:
25- วันที่ 29 มีนาคม 2564 คุณแม่น้องการ์ตูนมาออกรายการ “โหนกระแส” เนื่องจากผ่านมา 7 ปี แล้ว แต่ยังไม่ได้เงินตามคำสั่งศาล และคดีจะหมดอายุความในปี 2569
26- โดยทางรายการได้ติดต่อไปยังน้ำหวานด้วย แต่น้ำหวานบอกว่า “ไม่สะดวก ไม่มีอะไรจะคุย” ก่อนวางสายไป
27- คุณแม่บอกว่า คู่กรณีไม่มีจิตสำนึกและไม่รู้สึกผิดเลย หากพ้นโทษแล้วมาคุยกัน มาบอกว่าไม่มีเงิน ให้เงินแค่ 500 หรือพันนึง หรือช่วยซื้อแพมเพิร์สให้ ก็ยังคุยกันได้ แต่นี่ไม่มีน้ำใจและสามัญสำนึกเลย
28- ปัจจุบันคุณแม่เปิดร้านสเต็กชื่อ “ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน” และร้านผัดกะเพรา รวมทั้งขายน้ำพริกออนไลน์ เพื่อหาเงินมาเป็นค่ารักษาน้องการ์ตูน
วันที่ 1 เม.ย.2564 กลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนในสังคมอีกครั้ง กรณีที่ น้องการ์ตูน ด.ญ.ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ รถกระบะแต่งซิ่งเมาแล้วขับแข่งกันมา โดยมี น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ขณะนั้น อายุ 22 ปี เป็นคนขับ และ นายธงชัย ขณะนั้น อายุ 19 ปี นั่งมาด้วย ก่อนเสียหลักพุ่งชนร้านร้านสเต็ก ปากซอยเอกชัย 119 เมื่อปี 2557 ส่งผลให้พ่อน้องการ์ตูนเสียชีวิต
ส่วนน้องการ์ตูน ต้องมาพิการ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ชีวิตคนในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม่ต้องคอยดูแลน้องการ์ตูนตลอดเวลา หมดค่ารักษาไปหลายล้านบาท ส่วนคนขับรับโทษติดคุก 1 ปี ก่อนได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้ว ขณะที่ศาลสั่งให้ชำระค่าเสียหาย 6 ล้านบาท แต่อีกฝ่ายมีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ฏทำนองว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย อีกไม่นานคดีหมดอายุความ จนปัจจุบัน เวลานานกว่า 7 ปี คู่กรณีก็ไม่แสดงตัวรับผิดชอบแต่อย่างใด
โดยเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ตนคิดว่าเรื่องราวของน้องการ์ตูนจบไปนานแล้ว เพิ่งมารู้จากข่าวว่าครอบครัวของน้องการ์ตูนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ
โดยได้เรียกทางคู่กรณีมาเจรจา พร้อมถามเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวน้องการ์ตูน ผู้เสียหาย ซึ่งต่อมา นายวัน โพสต์ภาพ ขณะตนเองกำลังนั่งคุยกับ พ่อของ น.ส.น้ำผึ้ง คู่กรณีคดีน้องการ์ตูน พร้อมระบุข้อความว่า “ล่ม!!!” และระบุเพิ่มเติมว่า “เขายืนยัน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย”
โดยได้เรียกทางคู่กรณีมาเจรจา พร้อมถามเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยให้ครอบครัวน้องการ์ตูน ผู้เสียหาย ซึ่งต่อมา นายวัน โพสต์ภาพ ขณะตนเองกำลังนั่งคุยกับ พ่อของ น.ส.น้ำผึ้ง คู่กรณีคดีน้องการ์ตูน พร้อมระบุข้อความว่า “ล่ม!!!” และระบุเพิ่มเติมว่า “เขายืนยัน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย”
