จากกรณีอุบัติเหตุ เก๋งสปอร์ตหรู ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 ของ นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือตุ้ม อายุ 49 ปี พุ่งเหินข้ามเกาะกลางถนน ชนกับรถยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ก่อนที่นายสุรภักดิ์ จะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ จ.เพชรบูรณ์ นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (16 มิ.ย.) จะมีพิธีฌาปนกิจ ร่างนายสุรภักดิ์ โดยนางแต้ม ภูไชยแสง อายุ 77 ปีแม่ผู้เสียชีวิตได้กล่าวขอร้องผ่านสื่อว่าอย่ามาโจมตีหรือกล่าวหาว่าพวกตนเป็นคนร่ำรวย แม่ไม่ได้มีเงินทองตามที่เขาว่าหรอก ส่วนลูกชายที่เป็นผู้ตายเวลาหาได้ก็ใช้ไปฟุ้งเฟ้อ ส่วนวันไหนหาเงินไม่ได้ก็ต้องกินมาม่าแทนข้าว บ้านซุกหัวนอนก็ต้องเช่า
และรถยนต์คันเกิดเหตุก็ต้องซื้อผ่อนส่งเขาเดือนละ 40,000 บาท และยังต้องเหลือค่างวดอยู่อีกประมาณ 1 ปีถึงจะจ่ายหนี้งวดรถหมด เวลาหาเงินมาได้กินเที่ยวไปเรื่อยตามประสาคนหนุ่มที่ไม่มีครอบครัวเงินเก็บออมในธนาคารก็ไม่มี เวลาหาเงินได้ก็ได้เยอะแต่บางเดือนก็ไม่ได้ตลอด หาเงินได้ก็ฝากมาให้แม่ แต่พอไม่มีก็เอาคืนไปเหมือนเดิม ส่วนแม่ก็เป็นยายแก่คนบ้านนอกไม่มีสมบัติมรดกอะไรตามที่เขาว่าหรือเป็นข่าว
นายภูริทัต ภูร์ชัยแสง พี่ชายผู้ตายได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะอยู่ในช่วงระหว่างจัดงานศพน้องชาย แต่อย่างไรก็ขอแสดงความเสียใจกับญาติๆ ผุ้สูญเสียคู่กรณีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่อยู่ในโรงพยาบาลหนองไผ่ ก็ได้ถามหาคุณพ่อคุณแม่เขาอยู่ว่าได้มาด้วยหรือไม่แต่เราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้ก็เจอแต่ญาติเขา ด้วยความรีบเร่งจัดการเอาศพออกจากโรงพยาบาลก่อน เพราะบ้านไกลยิ่งคนอยู่สมุยยิ่งอยู่ไกลต้องออกก่อนแล้วผมก็มาถึงบึงกาฬดึก 3 ทุ่ม เดินทางเป็นระยะไกลตั้ง 5-600 กิโลเมตรเดินทางมาทั้งวันเลยไม่มีเวลาที่จะต้องดูแลและคุยกันมากนัก แต่ได้ส่งหรีดคารวะศพ และแสดงความเสียใจ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“หลังจากดูแลศพน้องซึ่งจะทำการเผาวันที่ 16 มิ.ย. โดยปกติต้องเก็บไว้ 3 วันสวด 3 วันถึงจะเผา แต่ที่นี่ทำไม่ได้เพราะติดปัญหาเรื่องโรคระบาดโควิด อยากให้เสร็จอยากให้จบจะได้มีเวลาติดตามเรื่องคดีตรงนั้น”นายภูริทัต กล่าว
นายภูริทัต เผยอีกว่า อย่างไรก็ขอฝากประกันทางโน้นหลังจากเสร็จงานฌาปนกิจแล้วค่อยมาคุยและเคลียร์กันต้นเหตุสาเหตุข้อเท็จจริงมันคืออะไร ส่วนฝ่ายตำรวจก็บอกว่าให้ดำเนินการจัดการกับศพเรียบร้อยก่อน เพราะว่ายังไม่สามารถสรุปสาเหตุอะไรได้พยานหลักฐานบางอย่างก็ต้องตามหา และน้องผู้หญิงที่เป็นพยานในเหตุการณ์คนหนึ่งซึ่งได้รับบาดเจ็บให้เขาหายและให้ปากคำได้ จึงจะได้แนวทาง โดยตนสงสัยสาเหตุของอุบัติเหตุ ว่า เกิดจากอะไร
นายภูริทัต เปิดเผยว่า ตอนน้องเสียชีวิตพบเงินในกระเป๋าพันกว่าบาท แต่พฤติกรรมของน้อง ชอบเอาเงินสดไปเที่ยว ทราบว่า ก่อนหน้าน้องชายเบิกเงินไปใช้ก่อนไปเที่ยวประมาณ 3 แสน โดยได้เดินทางไปเขาใหญ่ก่อน ถึงมาเขาค้อ ครอบครัว ไม่รู้ว่า เงินน้องชายหมดไปกับเที่ยวหรืออย่างไร เพราะปกติ น้องเป็นคนเปย์ กินใช้เต็มที่ แต่ไม่เล่นการพนัน เงินที่ไม่พบไม่ได้อยากปรักปรำใคร แต่ไม่รู้ว่า หายไปไหน และปกติน้องชายจะมีสร้อยทอง 5 บาท คล้องคอไว้ตลอด แต่เจอพระรอดเลี่ยมทองอยู่ในรถ ซึ่งน้องชอบห้อยสร้อยแล้วเก็บเหรียญไว้ ก็ต้องรอพิสูจน์ว่าความจริงคืออะไร
ที่มาข่าวสด
