ศาลขยายเวลาให้ 4 แม่เฒ่าอยู่บ้านเดิมอีก 30 วัน ยายเครียดเป็นลม เจ้าหนี้ไม่ขายที่คืนให้

ศาลขยายเวลา 4 แม่เฒ่า อยู่บ้านเดิมต่อได้อีก 30 วัน แม่เฒ่าเครียดลมจับ หลังรู้ว่าเจ้าหนี้ไม่ยอมขายที่ดินคืนให้ ต้องไปหาบ้านอยู่ใหม่

กรณี 4 แม่เฒ่า ชาว ต.สาม เรือน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย อาศัยที่บ้านเรือนไม้ขนาดใหญ่ ใต้ถุนสูง ปลูกบนพื้นที่ 3 งานเศษ และต้องถูกไล่ที่จนไม่มีที่อยู่ สาเหตุจากหลานชายนำโฉนดไปค้ำประกันเงินกู้เพื่อไปทำงานที่ไต้หวัน และไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนเจ้านี้ได้นั้น ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย. นายลวง อนุเคราะห์ ลูกชายของนางโปรย พร้อมด้วยยายตะล่อม ทิมแย้ม ทนายความ เดินทางไปยังศาลจังหวัดสุโขทัย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาให้ยายทั้ง 4 และครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ในบ้านเพิ่มเติมไปอีก 60 วัน ศาลไกล่เกลี่ยพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่าย

โดยที่โจทก์ยินดีที่จะให้จำเลยขยายระยะเวลาออกไปได้ 30 วัน เพื่อที่จะได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาท ซึ่งจะครบกำหนดในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 16 ก.ค.64 นี้ โดยจำเลยมีหน้าที่จะต้องมาแถลงให้ศาลทราบเมื่อถึงเวลานั้นว่าได้ขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่พิพาทเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้น โจทก์แจ้งว่าไม่ประสงค์จะขายทรัพย์ ซึ่งลูกหนี้ก็ได้เข้าใจในเรื่องนี้ ซึ่งก็ต้องหาพื้นที่ใหม่ที่จะต้องออกไปอยู่พักอาศัยตามระยะเวลาที่ได้ขยายภายใน 30 วันตามที่ศาลให้ความกรุณา
หลังจากนายลวง ยายตะล่อม และนายสมศักดิ์เดินทางกลับมาถึงที่พัก และแจ้งข่าวให้กับญาติๆ ทราบทำให้ยายศรีนวล ทิมแย้ม อายุ 82 ปี ถึงกับเป็นลม เนื่องจากมีอาการเครียดมาหลายวัน และยังคงเสียใจที่ทางโจทก์ไม่ยอมขายบ้านและที่ดินคืนให้พวกตน และพวกตนจะต้องออกจากบ้านที่เคยอยู่มานานตั่งแต่วัยสาวจนตอนนี้ก็วัยชราแล้วไปอย่างไม่มีทางได้กลับมาอีก จนยายตะล่อมต้องเข้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ด้วยความห่วงใย

อย่างไรก็ตาม ทุกคนในครอบครัวยังคงไม่สิ้นหวัง ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงแสงรำไรก็ตาม โดยหวังว่าในอีก 30 วันข้างหน้าจะมีผู้ใจบุญมาช่วยไกล่เกลี่ย และหวังว่าโจทก์จะใจอ่อนเมตตาสงสารครอบครัวของพวกตนยอมขายที่และบ้านคืนให้กับพวกตน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยายโปรย วัย 94 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวคนโต บอกความรู้สึกของตนเองว่า ดีใจที่ได้อยู่ต่อ แต่ก็อยากได้บ้าน ได้ที่ดินนี้คืน ได้อยู่ต่อไป หากให้ไปอยู่ที่อื่นก็รู้สึกไม่สบายใจ เศร้าเสียใจตลอดเวลาที่นึกถึง

ด้านนายลวง ลูกชายยายโปรย กล่าวว่า ดีใจที่ศาลขยายระยะเวลาให้ 30 วัน แต่ก็ต้องหาทางขยับขยายหาที่อยู่ใหม่ เนื่องจากเจ้าหนี้ไม่ยอมขายคืนให้ อาจหาซื้อที่และสร้างบ้านหลังเล็กๆ ให้คนแก่ได้อยู่อาศัยกัน

ขณะเดียวกันนายลวงกล่าวขอบคุณคนไทยทุกคนที่ช่วยเหลือครอบครัวในการบริจาคเงิน และให้ความอนุเคราะห์แก่ยายทั้ง 4 คนและครอบครัว สำหรับยอดเงินบริจาคให้การช่วยเหลือ 4 ผู้เฒ่านั้น นายลวงได้นำสมุดบัญชีไปตรวจสอบยอดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งพบว่าขณะนี้มียอดเงินบริจาคช่วยเหลือจากผู้ใจบุญทั่วประเทศเป็นจำนวน 1,511,939.75 บาท

ที่มา มติชนออนไลน์

(Visited 1,097 times, 1 visits today)
error: Content is protected !!