แม่สุดเศร้า แจ้งตำรวจมาสยบ ลูกชายคลุ้มคลั่ง อาละวาดในบ้านเพื่อน สู้กันอยู่พักใหญ่ จู่ ๆ ก็นอนแน่นิ่ง จนสุดท้ายเสียชีวิต ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2564 ที่วัดสี่ร้อย ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นางพรสม แจ้งกระจ่าง อายุ 57 ปี แม่ของนายนายดลรวี แจ้งกระจ่าง อายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เพราะทางตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุ จนทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิต จากเหตุที่ตนแจ้งให้มาจับลูกชายที่คลุ้มคลั่งในบ้านเพื่อน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 10 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา นายดลรวี ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งอยู่ในบ้านเพื่อนในหมู่บ้านเปี่ยมสุข 2 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง ตำรวจสภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัย จ.อ่างทอง จึงมาระงับเหตุ โดยได้ช่วยกันจับนายดลรวี ที่โวยวาย คลุ้มคลั่งอยากหนัก มัดมือมัดเท้านำใส่กระบะหลังรถแต่ระหว่างนั้นนายดลรวี กลับเสียชีวิต
นางพรสม กล่าวว่า วันนี้ทางญาติได้เดินทางไปรับศพนายดลรวี จากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาตั้งศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณีของทางศาสนา และทำพิธีรดน้ำศพในเวลา 16.00 น. โดยผลชันสูตรเบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่า สาเหตุของการเสียชีวิตเพราะ ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนผลชันสูตรอย่างละเอียดต้องรอผลอีก 45 วัน
ตนอยากจะออกมาขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการเกินกว่าเหตุ จนทำให้ลูกชายเสียชีวิต โดยทางตนและครอบครัวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทั้งที่ตนแจ้งให้มาระงับเหตุลูกชายอาละวาด และลูกชายก็ไม่มีอาวุธ เพียงแค่อยากให้นำตัวไปโรงพักเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่ทำไมตำรวจจึงทำถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่บ้างจะรู้สึกอย่างไร
![](https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2021/04/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A1-50.jpg)
ด้านน.ส.ภัคนิจ แจ้งกระจ่าง อายุ 30 ปี ภรรยา เปิดเผยว่า ตนยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แค่ช่วงเวลาไม่นานเพียง 10 นาที มารู้อีกทีสามีหยุดหายใจแล้ว ทีแรกสามีก็ยอมให้ควบคุมตัว แต่พอมีตำรวจมาเพิ่ม เข้ามากดและขึ้นไปนั่งทับอีกก็เกิดชุลมุนต่อสู้กันขึ้นมาอีก ต่อจากนั้นมาตนเองก็ไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะตำรวจเรียกตนให้ไปนำค้นรถ และบอกให้ตนตามไปที่โรงพยาบาล
![](https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2021/04/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A3-11.jpg)
มารู้อีกทีสามีก็หยุดหายใจต้องปั๊มหัวใจช่วยแล้ว หลังจากสามีเสียชีวิต ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะสามีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว โดยเป็นพ่อครัวของร้านข้าวต้ม และยังมีลูกสาวอีก 2 คน ที่ยังเล็กต้องดูแล ทุกคนต้องการคำอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้สามีต้องเสียชีวิต
![](https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2021/04/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A2-39.jpg)
ขอบคุณภาพและที่มาข่าวสด