เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว เจ้าของบ้านร่ำไห้ ฟ้าผ่าไหม้วอด 2 หลัง ทรัพย์สินเสียหายหมด
เจ้าของบ้านร่ำไห้ ฟ้าผ่าไหม้วอด 2 หลัง เผยทรัพย์สินและรถเสียหายหมด เหลือแค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อนบ้านเล่านาทีเกิดเหตุ สายฟ้าลงกลางบ้าน
วันที่ 18 พ.ค. 64 ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว. สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้าน ในพื้นที่ หมู่10 บ้านเสมา ชุมชน2 ต.โนนสูง หลังรับแจ้ง จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลโนนสูง-น้ำคำ เทศบาลตำบลบ้านจั่น อบต.เสอเพลอ ทหารค่ายพัฒนา ป.3 พัน13 รวมทั้งหมด 7 คัน และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุฝนพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น เสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิง ไม่ให้ลุกลาม แต่เนื่องจากมีลมพัดแรงเป็นระยะ ทำให้เพลิงลุกลามไปบ้านข้างเคียงอีกหลัง เป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ พบบ้านเรือนเสียหายทั้ง 2 หลัง
จากสอบสวนนายทองรัตน์ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านต้นเพลิง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ออกไปทำนาที่ อ.หนองแสง กับภรรยา ปิดบ้านไว้ ต่อมาเพื่อนบ้านโทรไปบอกว่าฟ้าผ่าลงกลางบ้าน ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ จึงรีบกลับมาดูบ้าน พบว่าถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ภายในบ้านมีเงินสด 2 หมื่น ที่ได้มาจากการขายข้าวเปลือก,ทองรูปพรรณ 2 บาท ,รถไถนา ,รถจักรยานยนต์ และรถสามล้อเครื่อง และทรัพย์สินภายในบ้านถูกไฟไหม้เสียหายหมด
ด้านนางอริสา อายุ 36 ปี ยืนร่ำไห้ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำกับข้าวไปส่งสามีที่ไปรับจ้างไถนา ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 5-6 กม. ต่อมามีฝนตก เพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า ฟ้าผ่าบ้าน นายทองรัตน์ ซึ่งอยู่ติดกัน ทำให้ไฟลุกไหม้บ้านแล้วลามมาไหม้บ้านตนจนหมดทั้งหลัง ภายในบ้านมีรถอีแต๋น, รถจักรยานยนต์ ทรัพย์สินเสียหายหมด เหลือแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ติดตัวเท่านั้น
ส่วน นางตู๊ อายุ 64 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่หน้าบ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ มีฝนตกและลมพัดรุนแรง ฝนตกไม่นานตนเห็นแสงฟ้าผ่าลงบ้านต้นเพลิง 2 ครั้ง เสียงดังสนั่น ไม่นานก็มีควันและไฟไหม้ลุก คาดว่าฟ้าผ่าลงมา ทำให้ไฟฟ้าในบ้านลัดวงจร และเกิดไฟไหม้บ้านขึ้นมา
ขณะที่ ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง สันนิษฐานว่า เกิดฝนตกและฟ้าผ่าลงบ้านต้นเพลิง ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร จนเกิดเพลิงไหม้บ้านทั้งหลัง และลุกลามไปบ้านข้างเคียง ซึ่งจะได้ประสานไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
ที่มาข่าวสด