เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2564 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหมวดลาดตระเวนที่ 3 (มว.ลว.ที่ 3) จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก
ทำการลาดตระเวน ร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าว ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ (ชป.ข่าว กกล.สุรสีห์) และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ตามเส้นทางธรรมชาติ บ้านซองกาเรีย-บ้านห้วยกบ
เมื่อเดินลาดตระเวนถึงบริเวณเส้นทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น-บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ห่างจากห้วยซองกาเรีย ประมาณ 3 กม. พบชายวันรุ่นกำลังยืนคุยโทรศัพท์ทำท่าทางต้องสงสัย จึงเข้าตรวจสอบ
ต่อมาพบว่าเป็นผู้นำพา บริเวณใกล้กันพบแรงงานชาวเมียนมาเป็นจำนวนมาก นั่งหลบแดดอยู่บริเวณใต้กอไผ่
เจ้าหน้าที่จึงสอบถามผู้นำพาจนทราบว่ามีผู้นำพาอีก 1 คน กำลังเดินไปดูต้นทาง จึงให้ผู้นำพาคนแรกโทรศัพท์หลอกให้กลับมาที่บริเวณใต้กอไผ่ เมื่อผู้นำพาคนที่ 2 เดินกลับมา แต่พบเห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่พยายามไล่ติดตามแต่ไม่ทัน เนื่องจากผู้หลบหนีชำนาญเส้นทาง
เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ จำนวน 35 คน เป็นชาวเมียนมา จำนวน 13 คน และเป็นชาวโรฮีนจา จำนวน 22 คน พร้อมคุมตัวผู้นำพาคือนายแง ไม่มีนามสกุล อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว
สอบถามนายแง ให้การว่า รับการว่าจ้างจากนายจออู นายหน้าจัดหาแรงงานต่างด้าวฝั่ง อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา ให้ตนและเพื่อนเป็นคนเดินนำทางพาบุคคลต่างด้าวเข้าประเทศไทย โดยใช้เส้นทางจาก อ.พญาตองซู ไปตามเส้นทางธรรมชาติข้างบ้านบ่อญี่ปุ่น ไปยังห้วยซองกาเรีย แล้วจะมีรถมารับแรงงานต่างด้าวต่อ โดยรถที่จะมารับทราบชื่อว่าคือ นายโทน และ นายต้น เป็นวัยรุ่นพักอาศัยอยู่หลังซอยศุลกากร สี่แยกซองกาเรีย สำหรับการเดินนำพาครั้งนี้ตนได้ค่าจ้างเป็นเงิน 1,500 บาท
เจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พร้อมนายแง ออกจากบริเวณพื้นที่ป่าเส้นทางธรรมชาติ เพื่อทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พบทั้งหมดมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ก่อนจะทำการสอบสวนขยายผล และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มาข่าวสด
